วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

iPad 3 กำลังจะมา !!!


   

ถึงแม้ว่าตอนนี้แอปเปิลจะยังไม่ปริปากพูดถึงอุปกรณ์แท็บเล็ตยอดนิยมอย่าง iPad รุ่นใหม่ อย่าง iPad 3 ก็ตามที แต่ทว่าก็มีข่าวลือออกมาอยู่เนืองๆ ว่า iPad รุ่นใหม่จะเป็นอย่างไร มีสิ่งใดที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อนหน้านี้หรือไม่ และนี่คือ 7 เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ iPad 3

      
       **หน้าจอแสดงผล
      
       เริ่มจากขนาดจอ iPad 3 น่าจะยังคงขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้วเอาไว้ ความละเอียดหน้าจอจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีขนาด 768 x 1024 พิกเซล ทั้งนี้ใน iPad รุ่นถัดไป (หรือจะเรียกว่า iPad 3) ความละเอียดจอจะสูงกว่าเดิมอีก 2 เท่า เป็น 1536 x 2048 พิกเซล ซึ่งด้วยความละเอียดหน้าจอสูงขนาดนี้ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า iPad 3 จะใช้หน้าจอแสดงผลแบบ Retina Display นั่นเอง หลังจากที่เคยผิดหวังกันมาก่อนแล้วใน iPad 2 ที่เคยเชื่อกันว่าจะใช้หน้าจอดังกล่าว

      
      
**สเปกภายใน
      
       ก่อนหน้านี้สำนักข่าว Bloomberg เคยรายงานว่ามีความเป็นได้ที่แอปเปิลจะอัปเกรดชิปประมวลผลจากเดิมที่เป็น A5 มาเป็น A6 ซึ่งเป็นขุมกำลังแบบ 4 แกนสมอง เพื่อแข่งขันกับแบรนด์อื่นในตลาดแท็บเล็ตที่เริ่มพากันเฮโลไปใช้ชิปประมวลผลแบบ 4 แกนสมองแล้ว อาทิ Transformer Prime นอกจากนี้แล้วในส่วนของหน่วยความจำสำรอง จากเดิมที่ใน iPad 2 ที่มีให้ 512MB คาดว่าใน iPad 3 น่าจะปรับให้มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ เว็บไซต์ BGR ได้เผยรูปถ่ายสกรีนช็อตที่ได้มาจากโปรแกรม iBoot ว่า iPad 3 จะใช้ชิปประมวลผล A6 (รหัส S5L8945X) แน่ และถ้าเทียบกับชิปประมวลผล A5 นั้นมีรหัส S5L8940X ยิ่งทำให้มีความน่าเชื่อถือว่า iPad รุ่นถัดไปมีแนวโน้มจะใช้ชิปประมวลผล A6
      
       **กล้อง
      
       ด้านกล้องถ่ายภาพ ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการอัปเกรดคุณภาพของกล้อง ซึ่งคาดว่ากล้องของ iPad จะเป็นแบบ HD เพื่อรองรับการใช้งาน Facetime ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนทั่วไปนิยมใช้วิดีโอ คอลล์ผ่านแท็บเล็ตมากกว่าการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน
      
      
 

      
       **การรองรับเครือข่าย
      
       สำนักข่าว Bloomberg เคยรายงานเอาว่าใน iPad 3 อาจรองรับเทคโนโลยี 4G LTE ที่จะกลายเป็นเทรนด์ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐอเมริกาประจำปี 2012 ทั้งนี้ Macotakara ได้รายงานตรงกันว่า iPad 3 ก็น่าจะพร้อมรองรับ 4G LTE เพื่อไม่ให้เป็นการน้อยหน้าคู่แข่งในตลาดแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ
      
          **Siri
      
       แม้ว่าใน iPad 3 จะไม่ได้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) 6 ก็ตาม แต่ทว่าก็มีความเป็นไปได้ว่าใน iPad 3 อาจจะมาพร้อมกับ iOS 5.1 และอาจจะมีปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Siri ด้วยก็เป็นได้ จากรายงานของ 9toMac ระบุว่า iOS 5.1 beta 3 สำหรับนักพัฒนา มีหลักฐานที่บ่งบอกว่าแอปเปิลมีการแอบเอา Siri มาใส่ไว้ในอุปกรณ์ที่เชื่อว่าจะเป็น iPad 3 ซึ่งภายในมีช้อมูลฟีเจอร์ของ Siri Dictation ซึ่งถ้าหากข่าวดังกล่าวเป็นความจริง เชื่อว่า iPad 3 จะถูกจำกัดเอาไว้เฉพาะแท็บเล็ตอย่าง iPad 3 เพียงรุ่นเดียว เหมือนกับกรณีของ iPhone 4 S
      
       **การออกแบบ
      
       สำหรับการดีไซน์ ตามที่นาย Jerymy Horwitz เคยรายงานว่าได้มีโอกาสสัมผัสกับตัวโปรโตไทป์ของ iPad 3 ว่ามีรูปร่าง และขนาดไม่ต่างไปจาก iPad 2 เท่าไรนัก ซึ่งถ้าดูจากความเป็นไปได้แล้ว แอปเปิลเองก็มีความเชื่ออยู่ว่าขนาด และรูปร่างของ iPad เป็นรูปร่างที่เหมาะสมดีแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงนัก แต่อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ไม่น้อยเช่นกันที่แอปเปิลอาจจะปรับความบางของ iPad 3 ให้หนาขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อรองรับกับหน้าจอแบบ Retina รวมถึงการเพิ่มประจุแบตเตอรีให้ใช้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
      
       **เปิดตัวเมื่อไหร่ ?
      
       เป็นที่ทราบกันว่าโดยปกติแล้ว แอปเปิลจะเปิดตัว iPad ในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว ล่าสุดอเมซอนเว็บไซต์จำหน่ายหนังสือชื่อดัง ได้มีการเพิ่มข้อมูลหนังสือ 2 เล่มได้แก่ iPad 3 pour les nuls หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า iPad 3 for Dummies และก็อีกเล่มหนึ่ง Auf die Schnelle iPad 3 ซึ่งเป็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับ iPad 3 ทั้งสิ้น โดยทั้ง 2 เล่มจะวางจำหน่ายในวันที่ 29 มีนาคม ทำให้เป็นการเพิ่มน้ำหนักอีกว่า iPad 3 น่าจะมาแน่ในเดือนมีนาคม ตามไทม์ไลน์การเปิดตัว iPad

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

11 วิธี ใช้ฮาร์ดดิสก์ ให้ประหยัดพื้นที่


11 วิธีใช้ฮาร์ดดิสก์ ให้ประหยัดพื้นที่
รวบรวมคำตอบจากผู้รู้ถึงมาตรการจัดการฮาร์ดดิสก์ให้มีประ สิทธิภาพสูงสุด ไว้ดังนี้ 
  •  1.จัดระบบแฟมข้อมูลให้ดี ถึงจะไม่ช่วยเพิ่มที่ว่างในฮาร์ดดิสก์โดยตรง แต่ก็ช่วยให้รู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน จะได้ไม่เก็บซ้ำซ้อน
  •  2.แบ่งพาร์ติชั่น การแบ่งพาร์ติชั่น ฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ให้กลายเป็นเหมือนมีฮาร์ดดิสก์เล็กกว่าหลายๆ ตัว จะช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ เพราะพาร์ติชั่นของฮาร์ดดิสก์ยิ่งมีขนาดใหญ่ การจัดกลุ่มของข้อมูลก็จะใหญ่ตามไปด้วย โอกาสสูญเสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์ก็มากขึ้นด้วย
  •  3.ก๊อบปี้ใส่แผ่นซีดี ถ้ามีไฟล์ประเภทเสียง (ไฟล์ .wav และ .mp3) ไฟล์ภาพ (.jpg .bmp. psd .tif) และไฟล์วิดีโอ (.avi .mov .mpg) อยู่ในฮาร์ดดิสก์มากๆ ควรทำสำเนาเก็บในแผ่นซีดี 
  •  4.วิ่งโปรแกรมสแกนดิสก์ (Scandisk) บ่อยๆ นอกจากจะทำให้ฮาร์ดดิสก์ทำงานได้เต็มที่แล้ว ยังช่วยให้ได้พื้นที่ที่เป็นส่วนเก็บข้อมูลที่ชำรุดกลับคืนมา
  •  5.เรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์เดือนละหน (Defragment) เพราะแฟ้มข้อมูลที่เก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ จะเก็บไว้เป็นก้อนเล็กๆ เรียกว่าเซ็กเตอร์ (Sector) แฟ้มขนาดใหญ่มากอาจต้องเก็บเป็นร้อยๆ เซ็ก เตอร์ เมื่อมีการลบ เพิ่ม ก๊อบปี้ โยกย้ายเปลี่ยนแปลงแฟ้มข้อมูลบ่อยๆ เซ็กเตอร์ของแต่ละแฟ้มก็จะกระจายไปทั่วฮาร์ดดิสก์ ทำให้คอม พิวเตอร์ทำงานช้าลง 
  •  6.ล้างรีไซเคิลบิน (Recycle Bin) เมื่อลบแฟ้มจากฮาร์ดดิสก์ แฟ้มนั้นไม่ได้ถูกลบไปจริงๆ แต่จะถูกย้ายไปใส่ไว้ในรีไซเคิลบิน เมื่อใช้งานไปนานๆ ก็จะมีแฟ้มเก่าที่ไม่ต้องการแล้วอยู่ในรีไซเคิลบินเต็มไปหมด ซึ่งกินเนื้อที่ของฮาร์ดดิสก์ไปหลายเมกะไบต์
  •  7.ล้างอินเตอร์เน็ตแคช ที่พักข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต หรืออินเตอร์เน็ตแคช จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ตนานๆ ถึงแม้จะช่วยให้เปิดหน้าเว็บที่เคยเปิดได้เร็วขึ้น แต่ถ้าต้องการเนื้อที่ในฮาร์ดดิสก์จริงๆ ก็สามารถลบข้อมูลในแคชได้
  •  8.กำจัดปลั๊กอิน (Plug-in) ปลั๊กอิน เป็นโปรแกรมที่ทำให้เว็บบราวเซอร์มีความสามารถเพิ่มขึ้น เมื่อใช้อินเตอร์เน็ตไปนานๆ ในฮาร์ดดิสก์ก็จะมีปลั๊กอินมากมาย ควรเลือกลบอันที่ไม่ได้ใช้ออกบ้าง
  •  9.ล้างประวัติการท่องเว็บ Internet Explorer มีโฟลเดอร์สำหรับ เก็บที่อยู่ของเว็บไซต์ ลองเข้าไปในโฟลเดอร์ชื่อ History ซึ่งอยู่ในโฟลเดอร์ Windows ก็จะสามารถลบแฟ้มต่างๆ ได้ 
  •  10.ค้นหาและทำลายแฟ้มขยะ เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ไปนานๆ จะมีแฟ้มสำรองเป็นแฟ้มที่มีนามสกุลเป็น .bak (ย่อมาจาก backup) และแฟ้มชั่วคราวที่มีนามสกุล tmp (ย่อมาจาก temp) และไฟล์ที่มีเครื่องหมายนี้ ~ นำหน้า เช่น แฟ้มชื่อ ~abc.exe แฟ้มเหล่านี้เป็นแฟ้มที่ลบทิ้งไปได้โดยไม่ทำให้เกิดปัญหา 
  •  11.ลบฟอนต์ที่ไม่จำเป็น การเก็บฟอนต์ที่เกินความต้องการไว้มากๆ นอกจากจะทำให้เปลืองเนื้อที่แล้ว ยังทำให้วินโดวส์ทำงานช้าลงอีกด้วย



Simsimi เพื่อนแชทคนใหม่…ในวันบวมๆ!!


Simsimi เพื่อนแชทคนใหม่ในวันบวมๆ!!
Simsimi 

Simsimi - ใครนั่งส่อง Timeline Facebook อยู่ ณ จุดๆ  นี้ ต้องพบเห็นเพื่อนๆ บางคน แชร์ โพสต์บทสนทนาบางตอน แบบด้านล่าง ที่ก็งงว่า มันคืออะไรหรอกำลังคุยอยู่กับผู้ใด? แล้วทำไมมีคนกดไลค์อะไรเยอะแยะ? ก็คงไม่แปลกอะไรหรอก ถ้าบทสทนาที่โพสต์โชว์นั้น คู่สนทนามีชีวิตจริงๆ ไม่ใช่แอพพลิเคชั่นร่างทรงแบบนี้ !!

Simsimi 

เจ้าแอพพลิเคชั่นร่างทรง คู่สนทนา หลอนๆ ของใครหลายคนขณะนี้ มันชื่อ Simsimi  แอพสัญชาติเกาหลี ที่มีลักษณะของ Bot ออโต้เมสเสจ คล้ายกับ Auto Response Message ใน Chat Room ที่เว็บบางแห่งตั้งไว้เพื่อรับการแจ้งปัญหาต่างๆ ของผู้ใช้ แต่ที่  Simsimi ต่างออกไป คือ Simsimi สามารถโต้ตอบได้เหมือน คนจริงๆ พิมพ์มา
Simsimi 
เริ่มแรกเข้าไปดาวน์โหลดในตลาดของแต่ละค่าย Android / iOS / BB

ซิมซิมิ 

กด Accept เพื่อยอมรับการใช้งาน


เริ่มต้นบทสนทนาที่ในตอนแรก Simsimi 
อาจจะไม่สามารถโต้ตอบได้แล้วขึ้น
ซิมซิมิ


Simsimi


ให้ทำการ  Teach ป้อนข้อมูล เพื่อให้ระบบดึงมาใช้
โดยจะขึ้นให้กรอกประเทศและเบอร์โทรเพื่อดึงภาษาในท้องถิ่นมาโต้ตอบ
ใช้เวลาในการประมวลภาษาแล้วจึงตอบกลับมา



ซิมซิมิ


ยิ่งคุณทำการ Teach มากเท่าไหร่ ระบบจะจำเอาไว้
Simsimi ก็จะสามารถโต้ตอบกับคุณได้สมจริงยิ่งขึ้น!!



เครดิต : http://webboard.yenta4.com

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

VRZO อย่างฮา

VRZO รายการที่จะทำให้คุณได้รับรู้ถึงความคิดเห็นของคนที่ดูดี 100 คน (แก้เครียด ขำๆ)



บริหารสมองแบบ “นิวโรบิกส์ เอ็กเซอร์ไซส์“

บริมองแบบ นิวโรบิกส์ เอ็กเซอร์ไซส์หารส



                รู้หรือไม่ สมองก็ต้องการออกกำลังกายไม่แพ้ร่างกายเหมือนกัน เพื่อให้สมองสามารถทำงานได้คล่องแคล่ว ฉับไว คิดได้เร็ว มีความจำดี ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งต้องให้ความสำคัญ
การบริหารสมองสามารถทำได้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ยิ่งหมั่นบริหารบ่อย ๆ เท่าไหร่ การทำงานของสมองก็จะเสื่อมช้า ไม่เป็นโรคสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ ก็เหมือนร่างกายของคนเรานั่นเอง หากออกกำลังกายเป็นประจำ ก็จะทำให้มีภูมิต้านทานที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย
                ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงนันทิกา ทิวชาชาติ ภาคจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า การออกกำลังสมอง หรือ "นิวโรบิกส์ เอ็กเซอร์ไซส์" นั้น จะเป็นการฝึกให้สมองส่วนต่าง ๆ มีการทำงานที่ประสานสัมพันธ์กัน ทำให้ระบบการทำงานของสมองและมีพลังขึ้น เพราะเมื่อมีการออกกำลังสมองบ่อย ๆ สมองก็จะมีการหลั่งสารที่เรียกว่า นิวโรโทรฟินส์ (Neurotrophins) ที่เปรียบเหมือน "อาหารสมอง" ที่ทำให้เซลล์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ "เดนไดรต์" (Dendrite) ที่เชื่อมระหว่างเซลล์ประสาททำงานดีขึ้น จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เนื้อเซลล์เจริญเติบโต และเซลล์สมองแข็งแรง
                หลักการทำงานของการออกกำลังสมอง หรือ นิวโรบิกส์ เอ็กเซอร์ไซส์ คุณหมออธิบายเพิ่มเติมว่า เกิดจากการกระตุ้นให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 (Sensory Organs) ซึ่งได้แก่ การได้ยิน การมองเห็น การได้กลิ่น การลิ้มรส และการสัมผัส รวมไปถึงส่วนที่ 6 คือ อารมณ์ (Emotional Sense) ได้ทำงานเชื่อมโยงกัน เราสามารถทำทั้งหมดนี้ได้ด้วยการดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเราเป็นตัวช่วย เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการให้ต่างไปจากเดิมเท่านั้น
วิธีการออกกำลังสมองแบบง่าย ๆ ทำได้ดังนี้

ถ้าอยู่บ้าน ลองทำกิจกรรมเหล่านี้ดู         
-ปิดตาทำกิจกรรม เช่น ปิดตาอาบน้ำ ปิดตาดูทีวี เพื่อเปลี่ยนความเคยชินในการรับข้อมูลจากประสาทสัมผัสเดิม ๆ ในที่นี้คือการฝึกประสาทสัมผัสในด้านการได้ยิน
-ปิดไฟในห้องแล้วใช้มือคลำ เพื่อกระตุ้นประสาทในส่วนสัมผัส
-ไม่เปิดแอร์ แต่เปิดกระจกขณะขับรถ เลือกบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ซักนิด เพื่อเชื่อมโยงประสาทรับกลิ่นและเสียงภายนอกให้ทำงานประสานกันมากขึ้น
-เปลี่ยนเส้นทางกลับบ้าน หรือเปลี่ยนวิธีการเดินทางดูบ้าง เพราะวิวทิวทัศน์ กลิ่น และเสียงของเส้นทางใหม่จะช่วยกระตุ้นสมองชั้นนอกและฮิปโปแคมปัสให้สร้างแผนที่เส้นทางชุดใหม่ขึ้นในสมอง เป็นการเพิ่มการทำงานของสมองให้มากกว่าปกติด้วย
ขณะทำงานก็ฝึกสมองได้
-เปลี่ยนตำแหน่งสิ่งของบนโต๊ะทำงาน เพื่อสร้างภาพใหม่ ๆ ในสมอง เพิ่มการทำงานของสมองให้มากขึ้น เพราะไม่คุ้นชิน ทำให้สมองต้องเรียนรู้มากขึ้น
-พุดคุยกับเพื่อนร่วมงานใหม่หรือคนที่ไม่ค่อยคุยด้วย ทั้งการจำใบหน้า น้ำเสียง หรืออุปนิสัยส่วนตัวของเพื่อนร่วมงานคนนั้น เป็นการเติมข้อมูลใหม่ ๆ ให้กับสมอง ทั้งนี้รวมถึงการชวนเพื่อนร่วมงานถกเถียง อภิปรายหรือพูดคุยในประเด็นที่ไม่เคยพูด เพื่อเปิดรับข้อมูลใหม่ ๆ เช่นกัน
-หากิจกรรมสนุก ๆ ทำ เพื่อการพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซีกซ้าย
นอกจากนี้วิธีการบริหารสมองที่กล่าวมาข้างต้น สามารถทำอย่างอื่นที่เป็นการฝึกพัฒนาสมองได้อีก เช่น วาดรูป สเก็ตช์ภาพต่าง ๆ จะเป็นการฝึกด้านจิตนาการให้กับสมอง ทำงานฝีมือ หรือประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ฟังเพลงภาษาต่าง ๆ เพื่อฝึกความสามารถด้านภาษาของสมองเพิ่มเติม หรือแม้แต่การเล่นปริศนาอักษรไขว้ เป็นต้น
 ขอบคุณความรู้ดีๆ: http://campus.sanook.com



My Ford Mobile (App)


My Ford Mobile (App)

   ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้ล้ำหน้าไปมาก จึงมี App ต่างๆ มากมายเลยที่เดียว แต่วันนี้เราจะดู App ตัวนี้กันน่ะค่ะ APP ตัวนี้ก็คือ My Ford Mobile  ตัวนี้เป็นตัวที่จะทำให้เราสามารถที่จะควบคุม,ตรวจสอบรถของเราได้ผ่านมือถือ โดยใช้กับรถ Ford รุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยเราสามารถตรวจสอบสถานีที่ให้บริการชาร์จไฟที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งคงทำออกมาเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาดมากกว่า แต่ถ้าให้ดีแนะนำให้ทำเป็นอุปกรณ์ที่ขับรถให้ด้วยจะดีมากเลย จะได้ไม่ต้องขับเอง
เครติด : http://it.compgamer.com/?p=7464